เมื่อเมนูใหม่ของ KFC, Pizza Hut และ Taco Bell สามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจใน Yum! Brands, Inc. เพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 2 โดยการเพิ่มใหม่พร้อมกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านดิจิทัลช่วยเพิ่มรายได้ให้ Yum! เหนือระดับก่อนเกิดโรคระบาด
David Gibbs ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมกับ นักวิเคราะห์ Taco Bell ว่า “จุดแข็งของ KFC คือแซนวิชไก่ตัวใหม่ ในขณะที่พิซซ่าสไตล์ดีทรอยด์, Edge Pizza และไส้กรอกที่ทำมาจากพืชจาก Beyond Meat เป็นเมนูกระตุ้นผู้บริโภคของ Pizza Hut และเริ่มต้นไตรมาสด้วยการกลับมาของ Quesalupa ของ Taco Bell ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Cravings Box มูลค่า 5 ดอลลาร์ ตามด้วยการเปิดตัว Naked Chicken Chalupa อีกครั้ง
ยอดขายระบบทั่วโลกไม่รวมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเพิ่มขึ้น 26% โดยที่ KFC อยู่ที่ 35%, Taco Bell ที่ 24% และ Pizza Hut ที่ 10% ส่วนยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และ 4% ในไตรมาสที่ 2
แม้ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ความสำคัญของโอกาสนอกสถานที่ยังคงเป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับบริษัท โดยยอดขายดิจิทัลมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 35% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการลงทุนทางดิจิทัลล่าสุดรวมถึงแอปฝึกสอนอัจฉริยะภายในร้านสำหรับร้าน Pizza Hut และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ KFC ที่สร้างขึ้นภายใน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ตกลงซื้อกิจการ Dragontail Technologies ซึ่งเป็นบริษัทเพิ่มประสิทธิภาพการเตรียมอาหารที่ทำให้ขั้นตอนในครัว, พนักงานจัดส่ง และติดตามคำสั่งซื้อของลูกค้าโดยอัตโนมัติ
และเมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น แน่นอนการกำหนดราคาย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่ง Yum! มั่นใจในแบรนด์ที่มีอำนาจในการกำหนดราคาที่แข็งแกร่ง พวกเขาใช้การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า เพื่อไม่ให้ล้ำหน้าผู้บริโภคมากเกินไป และฉลาดพอที่จะสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆอยู่เสมอ
Resource : https://www.foodbusinessnews.net/