ที่นั่งว่าง ยอดขายไม่พอ เพิ่มยอดขาย ด้วย Hungry Hup ดูมั้ย!

ทำร้านอาหารมันต้องเจอกันบ้างในบางช่วงเวลาที่ลูกค้าไม่มา ที่นั่งไม่เต็ม ทำให้เสียโอกาสทำยอดขายไป แต่อย่าลืมว่ารายจ่ายของร้านเกิดขึ้น 24 ชม. ทั้งค่าเช่า ค่าแรง ดังนั้น เราไม่ควรปล่อยให้แต่ละช่วงเวลาที่ร้านเปิดทำการผ่านไปแบบว่างเปล่า เก็บลูกค้าได้แค่ช่วงพีคไทม์ จะดีกว่ามั้ยถ้าหาช่องทางเติมจำนวนลูกค้าเข้ามาในช่วงที่นั่งไม่เต็ม อย่าน้อย ๆ ก็มีรายได้หมุนช่วยผ่อนค่าแรง หรือดีไม่ดีอาจเป็นรายได้เพิ่มทำกำไรได้งาม ๆ หนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจคือ Hungry Hup แพลทฟอร์มที่เปลี่ยนเมนู A La Carte ให้เป็น Buffet แล้วเจ้า Hungry Hup จะเพิ่มยอดขายให้เราได้อย่างไร?

มีโอกาสได้คุยกับพี่เกษม GM Copper Buffet อัพเดตข่าวสารต่าง ๆ ประเด็นน่าสนใจหนึ่งที่พี่เขาพูดขึ้นมาคือ Copper ทำยอดขายเพิ่มจากช่องทาง Hungry Hup คิดเป็นค่าเฉลี่ยมากกว่า 20% ต่อเดือน นี่ว่าน่าสนใจแล้ว แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ พี่เกษมเล่าให้ฟังว่า กว่าที่จะเข้าร่วมแพลทฟอร์ม Hungry Hup ตัดสินใจอยู่นาน เพราะคิดว่าที่ร้านก็เป็น Buffet อยู่แล้ว ลูกค้าก็เยอะอยู่แล้ว ยังมองไม่เห็นความต่างและโอกาสเพิ่มยอดขาย จนกระทั่งได้มีโอกาสคุยกับทีมงาน Hungry Hup จึงทำให้เคลียร์ข้อสงสัย เพราะแพลทฟอร์มนี้เป็นการสร้างความ Win Win Win ทุกฝ่าย ทางร้านสามารถกำหนดราคา Buffet ที่สูงกว่าราคาปกติสำหรับลูกค้า Hungry Hup ได้ โดยเพิ่มเติมความพิเศษของเมนูที่ไม่มีอยู่ในไลน์ Buffet ราคาปกติ

อาจเกิดคำถามต่อว่า แล้วทำไมลูกค้าจะยินยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่า?

Hungry Hup เกิดขึ้นจากแนวคิดของคุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ (CEO และ Co-Founder ของ Hungry Hub) ที่มักเจอปัญหาเวลาพาทีมงานไปเลี้ยงอาหารตามร้านบุฟเฟ่ต์เพราะคิดว่าจะช่วยให้ประหยัดค่าหัว แต่ผลคือคุยงานกันไม่รู้เรื่อง ต่องานไม่ติดขาดตอนเพราะต้องลุกตักอาหารกันบ่อย ๆ แถมยังมีเวลาจำกัด จึงต้องเปลี่ยนไปร้าน A La Carte แต่ก็ต้องเจอกับค่าใช้จ่ายแพงกว่างบประมาณที่กำหนดต่อหัวไว้ จึงเกิดไอเดียสร้าง Hungry Hub ให้เป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้การจัดเลี้ยง สังสรรค์ หรือ ประชุมทีมงานสามารถคุมงบประมาณได้แถมยังได้กินอาหารดี ๆ ได้ลองเมนูใหม่ ๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ลองหากเป็นลูกค้าทั่วไป

ดู ๆ แล้วเหมือนจะเป็นประโยชน์กับฝั่งลูกค้ามากกว่า แล้วจะสร้างยอดขาย สร้างรายได้เพิ่มให้กับร้านอาหารได้อย่างไร?

อย่างที่บอกว่า Hungry Hup เป็นแพลทฟอร์มที่มีความ Win Win Win ทุกฝ่าย ผู้บริโภคได้ประโยชน์เอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะที่ต่างจากลูกค้าทั่วไป เช่น เมนูพิเศษ รู้งบประมาณที่แน่นอน สั่งเท่าไหร่ก็ได้ในเมนูที่กำหนดไม่มีเวลาจำกัด

ส่วนฝั่งร้านค้า เป็นการสร้างโอกาสเติมลูกค้านอกช่วงเวลาพีคไทม์ เพราะสามารถกำหนดช่วงเวลาของวันในการจัด Buffet สำหรับลูกค้า Hungry Hup ได้เอง เป็นการเพิ่มช่องทางหาลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะลูกค้าเป็นกรุ๊ป ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น 20-30% โดยไม่ต้องทำโปรโมชันลดราคา เนื่องจากทางแพลทฟอร์มมีการทำการตลาดของตัวเองและมีฐานลูกค้าที่ต้องการความพิเศษในรูปแบบของ Hungry Hup ใช้บริการไม่น้อยกว่า 400,000 คนและมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อีกทั้ง ยังเป็นการช่วยทำการตลาดให้กับร้านไปในตัว ผ่านบริการพิเศษ ๆ ต่าง ๆ ที่ทางร้านจะจัดให้สำหรับลูกค้า Hungry Hup และอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับร้านอาหารของแพลทฟอร์มนี้คือ หากใครกำลังมีแนวคิดจะทำร้านบุฟเฟ่ต์ Hungry Hup ถือเป็นการทดลองระบบของร้านว่าพร้อมสำหรับรูปแบบบุฟเฟ่ต์หรือไม่

แต่ทั้งนี้ สิ่งที่เพื่อน ๆ คนทำร้านอาหารจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือเรื่องของ QSC และการคำนวณต้นทุนอาหารที่นำมาทำ Buffet เพื่อกำหนดราคาให้เหมาะสม

ปัจจุบันมีเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งช่วยสนับสนุน หรือ ต่อยอดความสำเร็จให้กับธุรกิจร้านอาหารของเพื่อน ๆ ได้อยู่ที่ว่า เพื่อน ๆ จะทำความรู้จัก และ เปิดใจเรียนรู้กับมันหรือไม่ เราเองก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ช่วยนำเรื่องราวของเทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ มาบอกเล่าให้กับเพื่อน ๆ

เพื่อน ๆ ท่านใดสนใจข้อมูลหรืออยากทราบรายละเอียด เงื่อนไขต่าง ๆ ของ Hungry Hup เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่>> Hungry Hup

บทความแนะนำ

Social Media เพื่อนแท้ร้านอาหาร

260,000แฟนคลับชอบ

บทความล่าสุด