ใครยังจำนิทานเรื่องลูกหมูสามตัวกันได้บ้าง? หากจำไม่ได้จะเล่าย้อนความหลังวัยเยาว์ให้ก่อน นิทานเรื่องนี้มีตัวละครหลักอยู่ 4 ตัว คือ ลูกหมู 3 ตัว กับหมาป่าอีกหนึ่ง ในนิทานลูกหมูตัวที่สาม หรือ The Third Pig เป็นลูกหมูที่มีความฉลาดเฉลียวมากที่สุด เพราะยอมอดทนสร้างบ้านด้วยอิฐจนรอดพ้นจากปากยาวแหลมและฟันคมกริบของหมาป่ามาได้ ตอนจบของเรื่องหากยังพอจำกันได้ เพราะหมาป่าไม่สามารถพังบ้านอิฐได้เลยปีนขึ้นไปบนปล่องไฟ แล้วตกลงมาในหม้อต้มน้ำที่ต้มรอไว้ได้ล่างเท่านี้พอ เพราะเนื้อของเรื่องวันนี้เกี่ยวข้องกับนิทานเรื่องนี้
The Third Pig คือชื่อร้านอาหารต้นเรื่องวันนี้แอดมินมีโอกาสไปสัมผัสมาแล้วต้องบอกกับตัวเองว่า “เจ๋งมาก” แบบนี้ต้องเอามาบอกต่อให้เพื่อนๆ ได้เป็นไอเดียต่อยอดร้านนี้ตั้งอยู่ปากซอยพหลโยธิน 20 ฝั่งตรงข้ามสวนจตุจักรโซนที่ที่เป็นสวนให้คนเข้าไปวิ่งได้เรียกว่าอยู่ไม่ไกลจาก BTS หมอชิต
ก่อนจะมาเป็นร้านลูกหมู เดิมทีตึกตรงนี้เป็นธนาคารเก่า พอรีโนเวทใหม่ด้วยคอนเซ็ปนิทานเรื่องลูกหมูสามตัว ร้านจึงออกมามีหน้าตาแบบที่เห็นในภาพ บางส่วนของร้านตั้งใจโชว์ให้เห็นโครงสร้างอาคารเดิมเช่น ในส่วนที่เป็นห้องนิรภัยที่มีผนังเป็นโครงสร้างเหล็กแข็งแรงถึง 2 ชั้นฝังอยู่ในผนัง
ด้วยเป็นคนชอบดื่มค็อกเทลอยู่แล้ว พอรู้ว่า The Third Pig พิถีพิถันสร้างสรรค์สูตรค็อกเทลเอง จนเกิดเป็นเมนู Pignature หลายเมนูยิ่งทำให้อยากไปลิ้มชิมรส ครั้งแรกชวนเพื่อนฝรั่งออสซี่อีก 2 คนไปด้วยนอกจากรสชาติค็อกเทลที่เราสั่งกันไปคนละ 2 แก้ว ไม่ซ้ำเมนู เพื่อนทั้ง 2 คนชอบใจรสชาติอาหารมาก อาหารที่นี่เป็นแบบฟิวชันที่ผสมผสาน สไตล์การทำอาหารและตกแต่งจานแบบฝรั่งเข้ากับวัตถุดิบแบบไทยๆ อย่างหมูสามชั้นที่เป็น signature ของร้าน(ไม่หนีคอนเซ็บลูกหมูสามตัว) กลายเป็นเมนู หมูพะโล้ทอด, พะโล้คาโบนาร่าที่คงความหอมของเครื่องเทศพะโล้ไว้ได้สำหรับคนรักสุขภาพไม่ต้องตกใจ ทางร้านมีเมนูคลีนอย่างสลัดจากผักที่ปลูกเองให้เราเลือกทานได้
ครั้งที่ 2 ตั้งใจไปซ้ำชวนเพื่อนสาวๆ ไปเป็นแก๊งเพื่อช่วยกันเก็บรายละเอียดแต่ละส่วน อย่างที่ย้ำมาตลอดถึงการสร้าง story ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปการออกแบบ ตกแต่งร้านการเลือกพร็อพต่างๆ การสร้างบรรยากาศการเลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ความพิถีพิถันในรสชาติ และการใส่ใจในบริการ
วันนี้จึงอยากย้ำอีกสักครั้งว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้า “มาแล้ว มาซ้ำและบอกต่อ”
ในความเห็นส่วนตัวร้าน The Third Pig ทำทุกอย่างได้ผสมผสานลงตัวมากใครมาแล้วก็เกิดอาการอยากแชร์ อยากชวน อยากมาอีก มีอีกข้อสำคัญที่ร้าน The Third Pig ทำให้สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นคือความอบอุ่นจากการให้บริการของทางร้าน ที่ดูแลและให้เกียรติลูกค้าเป็นอย่างดีการทำอาหารหรือแม้แต่การชงเครื่องดื่มต้องผสมส่วนผสมแล้วปรุงออกมาให้กลมกล่อม จนได้รสชาติที่ถูกใจและถูกปากลูกค้าหรือที่เรียกว่า Bliss Point รสชาติที่คนส่วนใหญ่ไม่ว่าชาติใด ภาษาใดทานแล้วต้องบอกว่า “อร่อย” ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากใจ ใจที่มุ่งหวังให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดส่งผ่านมาสู่ความละเมียดละไมในการรังสรรค์ให้หารสชาตินั้นจนเจอรสชาติที่ไม่ใช่แค่กินอร่อย แต่กินเข้าไปถึงใจ!!
ขอบคุณร้าน The Third Pig สำหรับแนวทางสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำร้านอาหาร
เฟซบุ๊กร้าน : The3rdPig
