6 สิ่งที่ต้องพร้อม ก่อนทำการตลาดร้านอาหาร

“การตลาด” หนึ่งสำคัญที่คนทำร้านอาหารจำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะยุคนี้ที่มีตัวเลือกร้านอาหารมากมายหากร้านเราไม่ทำการตลาดให้ผู้คนรู้จัก สนใจ โอกาสที่ร้านเราจะกลายเป็นตัวเลือกลูกค้าก็น้อยลง มันน่าเสียดายมาก ๆ หากเราลงทุนทำทุกอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายลูกค้าไม่เข้าร้านเพราะลูกค้าไม่รู้จักร้านเรา

marketing-planหลาย ๆ กรณีพบว่า การทำการตลาดของเพื่อน ๆ ร้านอาหารSME ขาดการวางแผนการตลาด (Marketing plan)เป็นการทำแบบเฉพาะหน้า เห็นยอดตก ๆ เกิดความกังวล ทำส่วนลด อัดโฆษณา จ้างบล็อกเกอร์มารีวิว โดยไม่ได้วางแผนรับมือแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ไว้ ผลที่ตามอาจกลายเป็นเรียกลูกค้ามาฆ่าตัวเอง ต่อไปนี้คือ 6 เรื่องที่เราอยากฝากให้เพื่อน ๆ เตรียมให้พร้อมก่อนที่จะทำการตลาดใด ๆ ก็ตาม เพื่อให้การตลาดที่ทำไปนั้นได้ผล ลูกค้ามาแล้วอยากกลับมาอีก ลูกค้ามาแล้วช่วยโฆษณาบอกต่อให้เรา

1 พนักงานมีเพียงพอแล้วหรือยัง :

คงเคยเจอ ร้านอาหารบางร้านทำโปรโมชั่นที่แรงมากเช่น “มา 4 จ่าย 3” , “เมนูพิเศษลด 50%” ผลคือได้ลูกค้าเข้าเต็มร้าน แต่พนักงานไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จนทำให้เกิดการบริการไม่ทั่วถึงการบริการล่าช้า ทำให้ลูกค้าเกิดความหงุดหงิด และเกิดการ complain บอกต่อในแง่ลบออกไปในโลกออนไลน์ นอกจากลูกค้าจะไม่พอใจแล้ว ผลกระทบอีกด้านคือ อาจทำให้พนักงานที่มีอยู่นั้นเหนื่อยล้ากับการทำงานเกิน เนื่องจากมีพนักงานไม่เพียงพอทำให้แต่ละคน ต้องทำ OT บ้างทำงานควบตำแหน่งบ้าง จนทำให้เกิดความรู้สึกว่าลาออกและหางานใหม่จะดีกว่าก็เป็นได้
พนักงาน ร้านอาหาร
2 พนักงานมีทักษะการบริการพร้อมแล้วหรือยัง :
นอกจากพนักงานจะมีเพียงพอแล้ว สิ่งต่อมาคือ พนักงานที่มีอยู่นั้น มีทักษะการบริการที่พร้อมแล้วหรือยัง เช่น
– ความรู้ด้านโปรโมชั่นของการตลาด มีเงื่อนไขอะไรบ้าง มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง
– เข้าใจเมนูอาหารของร้านตัวเองหรือไม่ในการรับออเดอร์กับลูกค้าใหม่นั้นเชื่อว่าต้องเจอกับคำถามเหล่านี้บ้าง
“เมนูไหนคือเมนูแนะนำ” , “เมนูนี้ใส่อะไรบ้าง”
“เอาเมนูนี้ไม่ใส่อันนี้ เปลี่ยนเป็นอันนี้ได้ไหม”
ซึ่งหากพนักงานมีความเข้าใจเมนูอาหารร้านตนเองดี ก็จะสามารถจัดการสิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกคนอื่นมาช่วยตอบ
– มีทักษะการรับออเดอร์และการเชียร์อาหารหรือไม่ หากทำโปรโมชั่นส่วนลด แต่พนักงานไม่มีทักษะการเชียร์ขาย แบบนี้ตายแน่ ๆ ครับ
– พนักงานมีทักษะการการเก็บจานและ setupโต๊ะ ที่ชำนาญหรือไม่ อย่ามองข้ามเรื่องนี้นะครับ เพราะยิ่งลูกค้าเยอะ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การเทิร์นโต๊ะให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้รับลูกค้าใหม่ ซึ่งการเก็บโต๊ะและการ setupโต๊ะที่รวดเร็วนั้น จะช่วยทำให้การเทิร์นโต๊ะได้ไวขึ้นเช่นกัน
– พนักงานมีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าบ้างหรือไม่ เช่น ลูกค้าตามอาหารต้องทำอย่างไรลูกค้าจะ complain ต้องทำอย่างไร
cost cooking

3 อาหารมีรสชาติคงที่และหน้าตาที่ดีแล้วหรือยัง :

สิ่งนี้คือความพร้อมขั้นพื้นฐานของร้านเลยครับก่อนจะทำโปรโมชั่น หรือการเรียกสื่อมารีวิวร้านอย่าลืมตรวจเช็คทักษะของเชฟในครัวทั้งหมดก่อนว่า เชฟสามารถทำอาหารได้ถูกต้องตามสูตรของร้านแล้วหรือยัง ทั้งในด้านรสชาติปริมาณ และการจัดเสิร์ฟ

4 มีข้อมูลของร้านในโลกออนไลน์พร้อมแล้วหรือยัง :

ร้านใดที่มีเฟสบุ๊กอยู่แล้วนั้นแนะนำว่า ควรใส่ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ใน Page ให้ครบถ้วนได้แก่
– ข้อมูลร้าน , วันเวลาเปิด-ปิด , เบอร์ติดต่อ
– แผนที่ร้าน
– ภาพเมนู บรรยากาศร้าน
เพราะบางร้านจ้างสื่อมารีวิวเสร็จแล้วพอลูกค้าเห็นสิ่งที่สื่อรีวิว เกิดความสนใจค้นหาข้อมูลร้านเพิ่มเติมแต่พอเข้าไปในหน้าร้านออนไลน์ เช่นแฟนเพจ เว็บไซต์ ไลน์OA ขาดข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ของร้าน ไม่มีโพสต์ Sale Page (เซลเพจ) ทำให้ความสนใจที่ถูกกระตุ้นจากสื่อที่มารีวิวก็หายไป พร้อม ๆ กับงบที่เราเสียไป ดังนั้นก่อนและหลังอัดงบทำการตลาด ยิงแอด หรือ จ้างรีวิว ต้องวางแผนด้วยว่า แฟนเพจร้าน บนเว็บไซต์ บนไลน์OA เราจะทำ Content Sale Page อะไรอย่างไรเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ลูกค้าให้ต่อเนื่องจากการตลาดที่ทำไป

5 วัตถุดิบอาหาร และภาชนะ พร้อมสำหรับการให้บริการหรือยัง :

เมื่อกำหนดได้แล้วว่าจะทำโปรโมชั่นอะไรหรือจะมีการจ้างสื่อมารีวิวแล้วคาดว่า จะมีลูกค้าตอบรับเข้ามาใช้บริการจำนวนมากเช่น “ทำโปรโมชั่นลด 50%” , “ซื้อ 1 จานฟรี 1 จาน”
อย่าลืมเพิ่มจำนวนวัตถุดิบที่มีผลจากการทำโปรโมชั่นให้มากขึ้นด้วยเพื่อป้องกันปัญหาของหมดระหว่างเปิดการขายและภาชนะภายในร้านก็เช่นกันหากสำรวจแล้วคาดว่ามีไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ก็อย่าลืมซื้อมาเพิ่มด้วยนะ

6 มีการเตรียมแผนการรับมือในกรณีที่ลูกค้าเยอะแล้วหรือยัง :

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญมากคือ อย่าลืมวางแผนในการรับมือหากลูกค้ามาเยอะกว่าที่คาดคิดไว้ เพื่อลดปัญหาการComplain ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น
– การจัดระบบคิวหน้าร้าน
– การรับจองทางโทรศัพท์
– การ Precook อาหารบางประเภทในช่วง Peak-time
(การ Precook อาหารต้องคำนึงถึงคุณภาพเมื่อลูกค้าได้รับอาหารด้วย)
– การเตรียมของทานเล่นฟรีให้กับลูกค้า ในช่วงที่อาหารในครัวออกไม่ทันเพื่อลดภาวะความตึงเครียดของลูกค้าในการรออาหาร
– การเตรียมเก้าอี้ , เครื่องดื่มไว้บริการฟรีให้กับลูกค้าที่ยืนรอคิวหน้าร้าน
ข้อย้ำว่า การทำการตลาดไม่ได้แค่หมายถึงการคิดว่าเราจะทำโปรโมชันอะไรอย่างไร จะจ้างใครมารีวิว จะใช้งบยิงแอดเท่าไหร่ แต่การทำการตลาดคือ การวาง Marketing plan ทั้งตัวแคมเปญ งบประมาณ ช่องทางสื่อสาร และการเตรียมการรับมือผลจากการตลาด เพื่อให้การตลาดที่ทำมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดผลพลอยได้ต่อเนื่องตามมา

 

บทความแนะนำ

Social Media เพื่อนแท้ร้านอาหาร

260,000แฟนคลับชอบ

บทความล่าสุด