ถ้าใครกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศชิลล์ ๆ ในย่านลาดพร้าว101 สำหรับนั่งกินนั่งดื่มผ่อนคลายอารมณ์ มีหนึ่งร้านที่ขอแนะนำด้วยบรรยากาศชิลล์หยิบเอาธรรมชาติมาไว้ในห้องแอร์ผ่อนคลายชีวิตให้คนเมืองจนเป็นหนึ่งในจุดหมายของสายชิลล์สำหรับร้านที่มีชื่อว่า Happy Garden bar แต่กว่าที่จะกลายเป็นจุดหมายของใครหลายคนเส้นทางบนถนนธุรกิจร้านอาหารของ Happy Garden bar ไม่ได้สวยงามเหมือนบรรยากาศร้าน เรามีบทสัมภาษณ์พี่รีและพี่เอ๋ 2 คู่หุ้นส่วนผู้ทำให้ Happy Garden bar กลายเป็นสถานที่เติมความสุขให้ทุกคนที่ได้มาเยือน
ที่มาที่ไปของการทำร้าน Happy Garden bar
จุดเริ่มต้น Happy Garden bar มาจากพี่รีเป็นคนชอบการดื่ม ไวน์ เบียร์ ค็อกเทล ถึงขั้นศึกษาเรื่องราวที่มาและกระบวนการผลิตอย่างลึกซึ้ง จนเจ้าตัวสามารถหมักเบียร์และสร้างสูตรเบียร์ขึ้นเองได้ จึงเกิดความคิดต่อยอดความรักความชอบที่มีให้กลายเป็นธุรกิจร้าน Happy Garden bar ก็ได้ถือกำเนินขึ้นมาถึงวันนี้เข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว และแน่นอนว่าร้านแห่งนี้คือแหล่งรวมของเครื่องดื่มสายแอลล์รสชาติดี ๆ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะสูตรพิเศษของทางร้านจากการคิดค้นของพี่รี
จากใต้ดินสู่บนดินทำทุกอย่างถูกกฎหมายสบายใจ
การทำร้านอาหารแนวสายดื่มยิ่งโดยเฉพาะสายคราฟเป็นที่รู้กันดีในวงการว่า มีทั้งแบบใต้ดินและบนดิน ซึ่งพี่รีเองก็เคยเดินสายใต้ดินมาก่อน ด้วยกฎหมายบ้านเรายังเป็นข้อจำกัดสำหรับนักผลิตเบียร์คราฟฝีมือดีแต่ศักยภาพการผลิตมีน้อยก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเป็นการค้าได้ หลายคนจึงจำเป็นต้องเดินลงใต้ดินแอบผลิตแอบจำหน่าย ซึ่งทำให้ธุรกิจยากจะโตได้ เมื่อพี่รีตัดสินใจทำร้านกับพี่เอ๋ จากที่เคยเดินสายใต้ดินก็พาตัวเองขึ้นมาอยู่บนดินทำทุกอย่างตามกฎหมายกำหนด แม้จะต้องใช้เงินลงทุนไปกับส่วนนี้ค่อนข้างสูงแต่พี่รีบอกว่า มันก็สบายใจกว่าไม่ต้องค่อยระแวงหลบๆ แอบ ๆ ทำ เราสามารถพัฒนาสูตรเครื่องดื่มของเราได้เต็มที่ต่อยอดได้เรื่อย ๆ
เพราะเป็นคนชอบบรรยากาศธรรมชาติจึงต้องเป็น Garden bar
สำหรับคอนเซ็ปต์ร้านนั้น พี่เอ๋เล่าให้ฟังว่า เพราะทั้งคู่เป็นชอบความธรรมชาติ ด้วยการใช้ชีวิตในเมืองหลวงเป็นอะไรที่ห่างไกลธรรมชาติ จึงคิดว่าถ้าหากมีสถานที่สักที่หนึ่งมีธรรมชาติให้ได้ผ่อนคลายก็จะช่วยบำบัดความเครียด ความเหนื่อยล้าให้กับคนอื่น ๆ ได้ และเมื่อบวกกับเครื่องดื่มเย็น ๆ อาหารรสชาติถูกปาก ก็ยิ่งจะเพิ่มความสุขให้กับทุกคนที่มา Happy Garden bar จึงเป็นอารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในสวนหย่อม มีเสียงน้ำตกเบา ๆ โดยตั้งใจจะให้มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่สถานที่จะสามารถทำได้ ซึ่งจากคอนเซ็ปต์นี้เองกลายเป็นหนึ่งในจุดขายของร้านที่ทำให้ลูกค้าเลือก