เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ร่วมและประสบการณ์ตรงที่เก็บข้อมูลสะสมมาเรื่อยๆ และสรุปได้ว่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องเล็กๆ ที่มีผลต่อความรู้สึกของลูกค้าได้มากนั่นก็คือ ระยะเวลาในการเสิร์ฟอาหารแต่ละเมนู ที่สามารถเป็นจุดตัดสินใจต่อบริการร้านเราในอนาคตหรือจะสิ้นสุดกันในวันนี้เลยทีเดียว
โดยปกติแล้วเมื่อลูกค้าสั่งอาหาร ส่วนใหญ่เมนูที่ออกมาก่อนจะเป็นเมนูที่กระบวนการทำไม่ยุ่งยากเช่น ผัด ทอด จะมีบางเมนูที่ต้องใช้เวลาในการทำเช่น ต้ม แกง ย่าง นึ่ง ความต่างกันของระยะเวลาในการทำนี่แหละครับมีผลต่ออารมณ์การรอเพราะเมนูที่ออกมาแล้วกินจนจะอิ่มแล้วเมนูที่เหลือยังไม่ออกลูกค้าจะเกิดความรู้สึกว่ามันช้า มันนาน มันลืม มันลัดคิว โน่นนี่นั่น ความคิดลูกค้าเตลิดได้ง่ายครับแถมยังชอบกำหนดมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับร้านอีกด้วย เช่น ถ้าจานแรกเสิร์ฟไว จานที่เหลือก็ต้องไวด้วยถ้าช้า ผิดมาตรฐาน สอบตก!!! นี่แหละครับ คุณลูกค้าที่รักของเรา
ถ้าร้านไหนที่พิถีพิถันในการทำอาหารหรือ พ่อแม่ครัวไม่พอ อาหารออกช้าแน่ๆ ทางแก้ไม่ยากครับ
- บอกลูกค้าก่อนเลยว่า เมนูที่สั่งเป็นเมนูยอดฮิต เป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของร้าน เราทำด้วยความใส่ใจอยากให้ลูกค้าได้กินของดีที่สุด อาจต้องใช้เวลารอนานสักหน่อยใครๆ ก็อยากกินของดีๆ ของที่คนอื่นตั้งใจทำให้ทั้งนั้นครับ
- จัดระเบียบ กะเวลาออกของเมนูอื่นๆ ให้ทิ้งระยะห่างไม่ควรเกิน 20 นาทีเกินกว่านี้ ลูกค้ากินอิ่มกันแล้วเมนูที่เหลือต่อให้บอกว่าอร่อยแค่ไหนก็ไม่อร่อยแล้ว เพราะมันไม่อยาก
เพียง 2 ข้อนี้ เชื่อว่าช่วยแก้ปัญหาลูกค้าเข้าใจผิด คิดเอาเองได้แล้วครับ เพราะหากปล่อยให้ลูกค้าคิดไปเองอาจมีผลลบตามมา เช่น ลูกค้ายกเลิกออร์เดอร์ทั้งที่เราทำไปแล้ว ลูกค้าโวยวาย สร้างความเครียดให้เราและโต๊ะอื่นๆ
แต่…ถ้าร้านไหนเจอประสบการณ์แบบที่ว่าลูกค้าบ่นช้าบ่อยๆ มี 2 อย่างน่าคิดครับ
- แสดงว่าของเขาดีจริงๆ ลูกค้าแน่น ทำไม่ทัน
- มีปัญหาเรื่องระบบหลังครัว