วิธีตั้ง Incentive ให้ร้านอาหารได้ทั้งกำไร และได้ใจพนักงาน

กลับเข้าสู่โหมดหาวิธีเพิ่มยอดขายเพื่อสู้กับสถานการณ์ต้นทุนสูงกันต่อ เราบอกมาตลอดว่า “พนักงาน” คือส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายผ่านการบริการและการเชียร์ขาย แต่ในบางครั้งการบอกหรือสั่งให้พนักงานเชียร์อาหารทานเล่น ท๊อปปิ้ง หรือเครื่องดื่มเพิ่มแต่เพียงวิธีเดียวนั้น อาจไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่หวังเพราะพนักงานอาจเชียร์บ้าง ลืมบ้าง

 

 

สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารจำเป็นต้องทำคือสร้างแรงจูงใจให้พนักงานเกิดแรงกระตุ้นในการเชียร์ขาย ซึ่งเครื่องมือสร้างแรงจูงใจที่ได้ผลดีตัวหนึ่งก็คือ Incentive นอกจากจะกระตุ้นให้พนักงานมีแรงจูงใจในการเชียร์ขายเพิ่มเติม แแล้วยังสามารถใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงาน และควบคุมต้นทุนกิจการร้านอาหารของเราได้อีกด้วย?
ทำความเข้าใจก่อนว่ Incentive คือ รายได้พิเศษที่มีเงื่อนไขในการให้จากบริษัท หรือจากผู้ประกอบการ เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้เพื่อเร่งยอดด้วยการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานเชียร์ขาย แต่ถ้าใช้ไม่เป็น หรือ กำหนด Incentive ไม่น่าจูงใจก็จะไม่เกิดผลอะไรตามมา

วิธีตั้ง Incentive ให้ได้ทั้งกำไรและได้ใจพนักงาน

1.Incentive สำหรับรายบุคคล (พนักงาน) : ใช้สำหรับของที่ขายออกยาก มีราคาแพงและกำไรสูงปรี๊ดดด
ตัวอย่าง  : พนักงานคนใดขายซาซิมิ เซ็ทใหญ่ ราคา 1,200 บาทได้ รับไปเลย 50 บาท/เซ็ท
: ขายชุดเบเกอร์รี่ปีใหม่ ราคา 800 บาทได้ รับเลย 30 บาท/ชุด
2.Incentive สำหรับรายบุคคล (ผู้จัดการร้าน/หัวหน้าครัว) : ใช้สำหรับควบคุมต้นทุนหรือพลักดันยอด
ผู้จัดการร้าน – ตั้งเป้ายอดขายรวมรายสัปดาห์ให้ผู้จัดการร้านดูแล สมมติปกติได้ 100,000 บาท/สัปดาห์
ตัวอย่าง : เป้ายอดขาย 110,000 บาท/สัปดาห์ ทำได้เกินเป้าที่ตั้งแจก 2,000 บาท/สัปดาห์ (รับรองสู้ตาย ฟิตแหลกเชียร์กระจายเลยทีเดียว!!!)
หัวหน้าครัว – ตั้งเป้าควบคุมต้นทุนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ แก๊ส น้ำ วัตถุดิบอาหาร น้ำยาเคมี อุปกรณ์สิ้นเปลืองในการทำความสะอาดต่างๆ
ตัวอย่าง : สมมติปกติต้นทุนอาหารอยู่ที่ 37% เราก็ตั้งเป้าให้หัวหน้าครัวควบคุมให้เหลือ 35% ถ้าทำได้สิ้นเดือนรับ 3,000 บาท
***สำหรับการควบคุมต้นทุนอาหารนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
ว่าสามารถทำได้จริงโดยไม่ส่งผลต่อคุณภาพอาหาร***

 

3.Incentive สำหรับกลุ่ม : เป็นวิธีที่ง่าย ไม่เกิดความลำเอียง และสร้างทีมเวิร์ค ซึ่งแนะนำใช้สำหรับการเชียร์ขายอาหารทุกประเภท ทุกราคา ที่ต้นทุนต่ำ ทำง่าย ไม่รอนาน
ตัวอย่าง : ชื่อกิจกรรม “กุมภาฯ..พากันรวย”
รายละเอียด เดือนกุมภาพันธ์นี้ ขาย MangoSoda (89บาท) ครบ 200 แก้ว รับ incentive 2,000 บาท/ร้าน
ครบ 350 แก้ว รับ incentive 4,000 บาท/ร้าน
ครบ 500 แก้ว รับ incentive 6,000 บาท/ร้าน

 

การให้ Incentive นั้นเพื่อนๆ คงมีคำถามว่าควรให้เท่าไร ให้ใช้ 2 อย่างผสมกันคือ
1.”ถ้าเราเป็นพนักงานเรารู้สึกอยากได้หรือไม่” – ไม่ควรตั้งเป้าที่มันยากเกินทำได้จริง และ incentive ต้องดึงดูดให้พนักงานอยากทำ
2.”สิ่งที่เราได้จากการทำกิจกรรมนั้น หักลบกับสิ่งที่จ่าย incentive ไปแล้วมีกำไรเหลือตามที่เราพึงพอใจหรือไม่”

แต่ มีข้อดีก็มีข้อเสีย Incentive เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่เราใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้านอาหารของเรา ซึ่งไม่ควรใช้บ่อย เพราะจะทำให้เมื่อใดไม่มี Incentive พนักงานจะเฉื่อยชาและไม่ทำตามกฎระเบียบ หน้าที่ที่ทางร้านกำหนดครับ

 

บทความแนะนำ

Social Media เพื่อนแท้ร้านอาหาร

260,000แฟนคลับชอบ

บทความล่าสุด