เมื่อวันก่อนดูข่าวททท.มอบรางวัลใหญ่ฉลองนักท่องเที่ยวคนที่ 21 ล้าน ในโครงการ “ทุกล้านคน ลุ้นเที่ยวฟรีเมืองไทย” ให้ได้คิดว่า ขนาดระดับประเทศยังจัดแคมเปนโปรโมชั่นเพื่อดึงลูกค้าเข้าประเทศ นับประสาอะไรกับธุรกิจทั่วไปอย่างธุรกิจร้านอาหารที่จะไม่คิดหาโปรโมชั่นเด็ดๆ กระชากยอดช่วงเทศกาลแบบนี้บ้าง จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้เราจะเห็นสารพัดโปรโมชั่นจากร้านต่างๆ ถูกงัดมาใช้เพื่อจูงใจลูกค้า
ถึงแม้ว่า ธุรกิจร้านอาหารจะเป็นประเภทปัจจัยสี่ที่ทุกคนต้องบริโภค แต่ก็ใช่ว่า ลูกค้าจะไม่เลือกมาก ยิ่งยุคนี้ลูกค้าหูไว ตาไหว มองหาตัวเลือกที่คิดว่าใช่อยู่ตลอด การจัดโปรโมชั่นเพื่อจูงใจจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรละเลย แล้วโปรโมชั่นแบบไหนละที่ทั้งโดนและใช่?
วันนี้ผมมีหนึ่งไอเดียโปรโมชั่นที่ทำให้ผมต้องตัดใจจากอีกร้านยอมมานั่งรอกว่า 40 นาทีเพื่อกินอีกร้านนึงเพราะแรงโปรโมชั่นนี้ และไม่เฉพาะผมเท่านั้นมีอีกหลายคนมากที่ต่อคิวยาวทนรอ ไอเดียน่าสนใจแถมความ (ดูเหมือนจะ) แรงของโปรโมชั่นก็จูงใจ คิดว่าเพื่อนๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ เพราะดูแล้วโอกาสเจ็บตัวจากโปรโมชั่นกระชากใจนี้คงยาก โปรโมชั่นอะไร?
“โปรโมชั่นกินเท่าไหร่ฟรีเท่านั้น” มันจูงใจมากครับ สมมุติมื้อนี้เรากินไป 1,000 บาท เราก็จะ (ดูเหมือนว่า) ได้กินฟรีเท่าที่จ่าย โหดมั้ยครับ โปรโมชั่นแบบนี้ ขนาดพนักงานร้านยังตะโกนกระตุ้นบอกว่า โปรเอาใจแบบไม่กลัวเจ๊ง แถมบิ้วหนักเข้าไปอีกด้วยการใช้ระยะเวลามาเร้าอารมณ์ 2 วันนี้เท่านั้น!
ก็ถูกของพนักงานนะครับ “โปรเอาใจแบบไม่กลัวเจ๊ง” เพราะไม่มีเจ๊งแน่นอน เนื่องจากเงื่อนไขที่วางไว้ทำได้อย่างรอบคอบมาก กินมื้อนี้โปรเริ่มต้นวันถัดไป สิ่งที่ลูกค้าจะได้คือ คูปองซอยราคา 1,000 บาทเป็น 2 ใบมูลค่าใบละ 500 บาท เงื่อนไขการใช้คือ ใช้ได้ต่อครั้งต่อใบไม่สามารถใช้รวมกันได้ในครั้งเดียวกัน ถ้าลูกค้านำคูปองมาใช้ลูกค้ากินเกินราคาหน้าคูปองต้องจ่ายเพิ่มส่วนต่าง แต่ถ้ากินน้อยกว่าราคาหน้าคูปองถือว่าได้ใช้คูปองใบนั้นแล้ว และกำหนดเวลาหมดอายุไว้ชัดเจนประมาณ 20 วัน
ในมุมผู้ประกอบการ โปรโมชั่นแบบนี้เป็นสิ่งที่นำไปปรับใช้ได้ครับ ให้จริง แจกจริง แต่มีเงื่อนไขกำหนดไว้ในสมมติฐานว่าลูกค้ารับได้ ซึ่งกรณีนี้ในมุมลูกค้ารับได้ครับ เพราะให้ฟรีตามจำนวนที่กินในครั้งแรกตามที่โฆษณาไว้จริง แม้จะมีเงื่อนไขการใช้ดูสลับซับซ้อนหน่อย แต่ก็ยังรู้สึกว่า มีคูปองให้อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องจ่ายเต็มในครั้งหน้า อายุเวลาที่มากกว่า 3-7 วันก็ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบมากนัก
ในมุมผู้ประกอบการต่อ โปรโมชั่นแบบนี้ กระทบต้นทุนในครั้งถัดไปน้อยมาก เพราะโอกาสที่ลูกค้าทั้งหมดจะนำคู่ปองกลับมาใช้พร้อมๆ กันยาก แถมมีเงื่อนไขกั๊กการใช้ไว้แล้ว และโดยพฤติกรรมของลูกค้าทั่วไป กินแบบจัดเต็มไปแล้วในครั้งแรก กว่าจะอยากกลับมากินใหม่อีกครั้งเผลอๆ คูปองหมดอายุพอดี
แต่ในการใช้โปรโมชั่นนี้ มีข้อควรระวังไว้ให้มากนั่นคือ การสร้าความพึงพอใจให้กับลูกค้าในครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการบริการ รสชาติ บรรยากาศ ราคา เพื่อที่ลูกค้าจะได้เกิดความรู้สึกว่า โปรโมชั่นเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวที่ทำให้เขาตัดสินใจ แต่ความพึงพอใจอื่นๆ ต่างหากที่เขาลูกสึกคุ้มค่า
ทุกๆ โปรโมชั่นถูกคิดมาเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ กระชากยอดในช่วงสำคัญๆ ดังนั้นไม่ว่าจะคิดโปรโมชั่นรูปแบบใด สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ต้นทุนที่จะถูกเพิ่มเข้าไปจากโปรโมชั่น และความรู้สึกถูกเอาเปรียบจากลูกค้า ดังนั้นต้องหาจุดลงตัวให้ได้ก่อน ไม่ควรจัดแบบน่ามืดตามัวเด็ดขาดเพราะอาจเลือดไหลหมดตัวได้ เช่น ประเภทกดไลค์ แชร์เพจ ลดทันที 10% อันนี้ก็หน้ามืดไปหน่อย ยกเว้นว่า ได้บวกต้นทุนนี้เข้าไปแล้วก็ไม่ว่ากัน
ลองคิดหาโปรโมชั่นที่จูงใจมาใช้กับร้านเราดูนะครับ แม้ร้านที่ขายดี มีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ก็ควรมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้รู้สึกว่า เขาคือฝ่ายได้เปรียบบ้าง!!!