ธุรกิจร้านอาหารจะสำเร็จได้ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค การจะประสบความสำเร็จได้ในธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ ความเข้าใจในตัวธุรกิจร้านอาหาร และต้องมีการวางแผนอย่างรอบครอบทุกจุดตั้งแต่เริ่มคิดจะทำร้าน ความสำเร็จจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ยากต่อให้เป็นมือใหม่ก็ตาม เหมือนเช่นเรื่องราวของผู้ประกอบการที่เรานำมาแบ่งปันในครั้งนี้ เธอเป็นมือใหม่ ทำร้านอาหารครั้งแรก แต่สำเร็จตั้งแต่วันแรกเปิดร้าน เพราะเธอวางแผนมาอย่างดี ไปติดตามเรื่องราวบทสัมภาษณ์ของคุณแอมป์ (เบญจวรรณ ไชยเสนา) กับประสบการณ์ทำร้านอาหารร้านแรกที่มีชื่อว่า “โกดังนมสด”
จุดเริ่มต้นก็เหมือนกับคนทำร้านอาหารส่วนใหญ่ “ทำตามความฝัน” เริ่มจากสิ่งที่อยากทำ
“ก่อนจะคิดทำร้านโกดังนมสด เราก็เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก ชีวิตก็มีความสุขดี แต่มันเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจ เหมือนยังไม่สุด เราอยากทำร้านอาหารสักครั้ง เพราะผูกพันมาแต่เด็ก เราโตมากับภาพคุณแม่เปิดร้านขายข้าวแกงขายอาหาร มันเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำวันนึงเราอยากมีร้านอาหารของตัวเอง อยากมีร้านน่ารักๆ มันเป็นความฝันของเรา แต่เราก็มีสติรู้ว่า ความฝันกับความจริงมันต่างกัน ถ้าเราจะทำให้ความฝันเป็นจริงเราต้องวางแผนอย่างดีตั้งแต่แรก ไม่ใช่อยากเปิดก็เปิดเลยแล้วสุดท้ายก็ไปไม่รอด เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น จึงให้เวลากับช่วงความคิดเยอะมาก”
เลือกทำร้านนมเพราะทุกคนเป็นลูกค้าได้
“แอมป์ไม่มีโจทย์ตายตัวแต่แรกว่า จะต้องเป็นร้านอะไร แต่มีโจทย์ว่า อยากให้ร้านเราเป็นร้านที่ทุกคน ทุกวัย ทุกเพศเป็นลูกค้าได้ ก็หาข้อมูลว่าจะมีร้านประเภทไหนบ้างที่ตอบโจทย์ บทสรุปเป็นร้านนม เพราะตรงโจทย์ที่สุด บวกกับช่วงนั้นเทรนด์ร้านนมกำลังมาด้วย ตัดสินใจว่าจะทำร้านนม มีขนมปัง ขนมต่างๆ ตอนแรกยังไม่ได้คิดถึงอาหารคาวเลย”
ตามด้วยหาทำเลและกลุ่มเป้าหมายที่ตอบโจทย์ ถ้าไม่เจอก็ไม่เปิด
“พอได้บทสรุปแล้วว่าจะเปิดร้านอะไร สิ่งสำคัญต่อมาคือเรื่องทำเล ต้องบอกเลยว่า แอมป์ศึกษาจากประสบการณ์คนอื่นแทบทุกคนจะบอกตรงกันว่า ทำเลคือเรื่องสำคัญ เราจะรุ่งหรือร่วงก็อยู่ที่ทำเล เลยบอกกับตัวเองอยู่ตลอดเลยว่า ถ้าไม่ได้ทำเลตามต้องการ เราห้ามเปิดนะ แม้จะเป็นทำเลสวยแค่ไหนก็ตาม ทำเลเป้าหมายที่วางไว้คือ ต้องมีที่จอดรถ ต้องมีทราฟฟิกหนาแน่นพอ อยู่ใกล้ชุมชน มีหมู่บ้าน โรงเรียน สถานที่ราชการ ต้องหาทำเลนี้ให้ได้ แล้วเผอิญเพื่อนของแฟนแนะนำทำเลนี้มาให้ ตรงตามที่เราต้องการพอดี พร้อมทุกอย่าง มีที่จอดรถ เป็นทำเลที่มีทราฟฟิกต่อเนื่อง อยู่ใกล้ชุมชน ตอนนั้นมีว่างอยู่ 2 ห้อง ก็ตัดสินใจเลือกเลย”
ลำดับต่อไป คอนเซปต์ของร้านต้องชัดเจน
“พอได้ทำเลแล้ว ก็คิดต่อว่าจะทำร้านนมสไตล์ไหนดี จะเปิดเป็นร้านธรรมดาๆ มีโต๊ะมีเก้าอี้ ก็พอ หรือจะตกแต่งให้มันเป็นร้านนมที่เห็นแล้วสะดุดตา อย่างที่บอกว่าแอมป์ฝันอยากมีร้านน่ารักๆ และทำเลตรงนี้มันใกล้โรงเรียนสองแห่ง มีหมู่บ้าน กลุ่มเป้าหมายเราชัดเจนว่าเป็นครอบครัว เด็ก นักเรียนส่วนใหญ่ เลยคิดว่า ถ้าเราทำให้ร้านมันดูสดใส่ มีสีสัน ก็จะช่วยให้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่ได้ จึงวางคอนเซปต์ให้เป็นร้านที่มีสีสัน มีความสนุก ผ่อนคลาย จึงมีการตกแต่งร้านเน้นสีสัน มีกราฟฟิตี้การ์ตูนบนผนักมุมต่างๆ จัดร้านให้น่ารัก มีของเล่นให้เด็กเล่น ให้เด็กได้ทำกิจกรรม ซึ่งผลก็ออกมาตามที่คิด ลูกค้าจะมากับครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็จะมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มเพื่อนนัดมาเจอกัน มา hang out กัน”
ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่มันคือแบรนด์
“เรื่องชื่อนี่ก็คิดกันจนเครียด เพราะว่า ชื่อมันจะอยู่กับเราไปตลอด ถ้าคนไม่จดจำชื่อก็ยากที่จะสื่อสารให้เขารับรู้ เลยต้องจริงจังกับชื่อ จริงๆ คิดไว้หลายชื่อมากเช่น ‘ปั๊มนม’ เพราะว่าอยู่ในปั๊ม ก็ฟังดูเหมาะดี แต่พอคิดทวนไปทวนมามันมองได้สองอย่าง ถ้าผู้ใหญ่ฟังบางทีอาจรู้สึกสองแง่สองง้ามก็จะไม่ดี หรือถ้าวันหนึ่งเราขยายสาขาไปอปิดที่อื่นซึ่งไม่ใช่ปั้มน้ำมันล่ะ? เลยต้องให้เป็นชื่อกลางๆ ที่สื่อความหมายถึงนมได้ในทางบวก แล้วชื่อ ‘โกดังนมสด’ ก็โผล่มาในหัว เออแฮะฟังดูเข้าทาดี มันต่อกันได้กับคอนเซปต์ร้านที่เราวางไว้ เป็นโกดังนมสด มีสารพัดนมให้เลือก ตอนนั้นต้องบอกตรงๆ ไม่รู้มาก่อนว่า มีร้านชื่อโกดังนมสดอยู่แล้ว เราแค่ชอบชื่อนี้ก็เลยใช้ชื่อนี้ พอเรารู้ก็จะเน้นไปที่คอนเซปต์ให้แตกต่างและเป็นสไตล์เรา
เมนูก็ต้องตอบโจทย์คอนเซปต์
“แน่นอนเมื่อเราเป็นร้านนม เมนูก็ต้องเป็นนมและขนมปัง ก็จะคิดสูตรนม คิดสูตรขนมปังเมนูออกมาให้เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เด่นๆ จะเป็นนมร้อน ทุกเมนูนมเราจะใช้นมวัวแท้ 100% นำมาผสมกลิ่น เติมรสชาติตามสูตรของร้าน มีประมาณ 10-20 เมนูได้ บางเมนูเราก็ได้เจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ช่วยคิดให้เป็นสูตรเฉพาะของเรา แต่ทุกเมนูเมื่อนำเสนอถึงโต๊ะลูกค้าจะต้องเข้ากับคอนเซปต์ร้านด้วย ก็จะตั้งชื่อเมนูให้มีความสดใส่และใช้แพคเกจจิงเป็นตัวช่วย”
ลูกค้าจะบอกเราเองว่า พวกเขาต้องการอะไรเพิ่มเติม หน้าที่เรา ตอบสนองให้ได้ก็พอ
“ช่วงแรกๆ เรามีแต่เมนูนมกับของหวาน ไม่ได้คิดถึงของคาวเลย เพราะเราคิดแต่ว่า เป็นร้านนม จนลูกค้าบอกเราเองว่า เขาอยากได้เมนูอื่นๆ ที่เป็นของคาว เป็นอาหารจานหลัก ไหนๆ ตั้งใจมาแล้วก็อยากจบได้ในทีเดียว พอเราคิดตามความต้องการลูกค้าก็พบว่า มันเป็นโอกาสของเรานี่ ร้านนมใช่ว่าจะต้องมีแต่เมนูนม ของหวาน เราสามารถทำเมนูจานเดียว เมนูทานเล่นที่ไม่ต้องใช้กระบวนการปรุงมากนักได้ สิ่งที่ทำตอนนั้นคือ ออกไปดู ไปศึกษาตามร้านอาหารต่างๆ ว่าเขามีเมนูจานเดียวอะไรที่น่าสนใจเหมาะเอามาเพิ่มในร้านเราบ้าง สุดท้ายก็ได้เมนูที่ทำไม่ยาก เช่น ไข่ม้วน สเต๊ก พวกสปาเก็ตตี้ ข้าวผัดต่างๆ เพิ่มเข้ามาในเมนูหลักของร้าน”
ยอดขายมาจากจำนวนลูกค้าและค่าเฉลี่ยต่อหัว
“ผลจากการเพิ่มเมนูของคาวกลายเป็นผลดีมากทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นเลย ลูกค้ามาที่ร้านเราสามารถจบเรื่องกินได้ทั้งครอบครัว มันทำให้ลูกค้ามาเพิ่มขึ้น เพราะเขารู้ว่า มาแล้วมีเมนูจานหลักให้เลือกด้วย ค่าเฉล่ยต่อหัว ต่อโต๊ะก็เพิ่มขึ้น ทุกโต๊ะจะสั้งทั้งเมนูของคาว เมนูทานเล่น และเมนูของหวาน นม แล้วร้านเราปิดดึกกว่าร้านอื่นๆ ช่วงที่ร้านอื่นปิดหมด ลูกค้าก็มาแต่ร้านเรา แม้ว่าของคาวเราจะเป็นเมนูง่ายๆ แต่เราก็เพิ่มเติมความต่างเข้าไปให้กลายเป็นเมนูที่ดูดีขึ้น เช่น ไข่ม้วนสีต่างๆ ก็ทำให้ลูกค้าเลือกสั่งเพิ่มขึ้นได้”
ถ้าทำเลได้ คอนเชปต์ลงตัว การตลาดก็จะง่ายขึ้นมาก
“เรื่องการตลาดช่วงแรกตอนที่เปิดร้านใหม่ เราทำโปรโมชั่นทำโบรชัวร์ให้เด็กในร้านไปแจกหน้าโรงเรียน ในโบรชัวร์จะมีทั้งส่วนลด แล้วก็คูปองรับน้ำฟรี เป็นพวกนมเย็นหรืออิตาเลี่ยนโซดา ช่วงแรกก็ทำอยู่ทั้งเดือน ต่อมาก็ให้ลูกค้ากดไลค์เพจ แชร์เพจ เพื่อรับน้ำฟรี ให้ลูกค้าแอด LINE@ เราจะมีกิจกรรมต่อเนื่องให้ลูกค้าตลอด ได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีมากดูจากคูปองที่ลูกค้านำมาใช้แลก แต่สิ่งที่แอมป์คิดว่ามีผลโดยตรงต่อการทำการตลาดแล้วได้ผลดีคือ เรื่องทำเลกับคอนเซปต์ร้าน อย่างทำเลนี้อยู่ในปั้มปตท.เป้นปั้มใหญ่มีร้านค้าหลายร้านอยู่ในปั้ม ทุกวันจะมีคนเข้ามาตลอด เรียกว่าต่อให้ไม่ทำการตลาดก็มีลูกค้าเข้าร้าน และการที่ร้านเราดูสะดุดตา มีสีสันสดใส ภายในร้านตกแต่งน่ารัก ทำให้ลูกค้าอยากถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียลก็ช่วยทำให้เกิดการบอกต่อ เป็นการตลาดไปในตัว”
เรื่องสำคัญ ทำให้ลูกค้ากลายเป็นลูกค้าประจำ บริการคือทีเด็ด
“การบริการเป็นสิ่งสำคัญมาก ต่อให้ทำเลร้านเราดี มีทราฟฟิกเข้ามาตลอดแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าบริการไม่ดีลูกค้ามาครั้งเดียวจะไม่กลับมาเป็นครั้งที่สองครั้งที่สามแอมป์เจอมาแล้ว การเสียลูกค้าเพราะบริการไม่ดีเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก เราเลยต้องเน้นกับพนักงานทุกคนให้เต็มที่กับบริการ ทำให้ลูกค้าสบาย สะดวกที่สุด อย่างช่วงแรกเราถูกลูกค้าคอมเพลนว่าที่ร้านมีพนักงานเยอะก็จริง แต่การบริการกลับไม่ดี ไม่ทั่วถึง พนักงานบางคนไม่ใส่ใจลูกค้า ถือว่าโชคดีมากที่ลูกค้าคอมเพลน ทำให้เราได้โจทย์แก้ไข เพราะช่วงแรกๆ แอมป์กลัวว่าพนักงานจะไม่พอเลยรับพนักงานมาเยอะ ก็เปลี่ยนใหม่จากเน้นปริมาณพนักงานเป็นเน้นเรื่องคุณภาพบริการแทน ลดจำนวนพนักงานลง คัดคนที่มีพร้อมเรียนรู้ และมีใจให้บริการ มีการเทรนพนักงานสร้างเป็นมาตรฐานการให้บริการลูกค้าขึ้นมา ว่า แต่ละขั้นตอนตั้งแต่เห็นลูกค้าเดินมาที่ร้าน จนกระทั้งลูกค้ากลับออกไปจากร้าน ต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง คำพูดที่ใช้ น้ำเสียง ท่านทาง มีการเทรน การฝึกพนักงานอยู่ตลอด“
“อย่างช่วงแรกลูกค้ามายังไม่มีการเสิร์ฟน้ำที่โต๊ะนะคะ เราก็เทรนพนักงานว่าต้องเสิร์ฟน้ำลูกค้าที่โต๊ะก่อนตอนลูกค้าเข้ามา แล้วค่อยเอาเมนูเข้าไปให้ คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างเราต้องดู จุดแคชเชียร์ต้องสวัสดีลูกค้า ยกมือไหว้ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นเด็กกว่า หรือเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็ต้องยกมือไหว้ มีร้อยยิ้มให้ทุกครั้ง ผลที่ตามมาคือ เรามีลูกค้าประจำมากกว่า 80%”
การจัดการร้านมองให้เป็นเรื่องสนุกที่ต้องหาทางแก้ให้ได้ก็เท่านั้นเอง
“คือก่อนจะทำร้านก็ศึกษาหาข้อมูลไว้เยอะ ทำให้รู้ว่าปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการทุกคนเลยคือเรื่องการจัดการคน เลยคิดเผื่อใจไว้ก่อนแล้วว่า ยังงัยก็หนีไม่พ้น มองให้มันเป็นเรื่องสนุกที่เราจะมีโจทย์อะไรให้ได้แก้แต่ละวันๆ พอเปิดร้านก็เจอครบทุกเรื่องทั้งส่วนหน้าร้าน ส่วนครัว ยิ่งช่วงแรกๆ เรารับพนักงานมาเยอะมาก เพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องใช้พนักงานส่วนไหนกี่คนกลัวไม่พอ ทำให้เกิดปัญหาการดูแลเพราะเราไม่มีระเบียบ ไม่มีมาตรฐานการทำงาน เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร วิธีแก้ปัญหาของแอมป์ในตอนนั้นคือ ไปดูร้านอื่นๆ ที่เขามีชื่อเรื่องการบริการดี เอาตัวเองไปเป็นลูกค้าคอยสังเกตทุกอย่างว่า พนักงานทำอะไรกับเราบ้าง แล้วก็เอามาเขียนเป็นคู่มือของเรา หรือทุกครั้งที่มีลูกค้าคอมเพลนเราก็จะจดไว้แล้วหาวิธีแก้ไข”
“แอมป์ว่าจริงๆ แล้วปัญหาบุคลากรสำคัญที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ ทุกที่เขาก็จะบอกเรื่องนี้กันหมด พนักงานบางคนมาสายบ้าง อยากขาดงานก็ขาด เราก็เจอ ก็สร้างกฎการทำงานขึ้นมาหาวิธีสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้เขา เช่น ถ้าร้านมียอดขายได้เท่านี้นะคุณจะได้เบี้ยเลี้ยงของร้าน ได้เปอร์เซ็นต์อะไรอย่างนี้ ซึ่งก็ดีขึ้น พนักงานมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีความกระตือรือร้นขึ้นด้วย”
“ทำธุรกิจมันหนีคำว่า อุปสรรคไม่ได้อยู่แล้ว มันต้องมีให้เราได้แก้อยู่ตลอด แต่จากประสบการณ์แอมป์พบว่า ถ้ายอดขายเราดี คอนเซปต์ร้านเราดี ระบบร้านเราดี ปัญหาอะไรๆ เราก็จะแก้ได้หมด อย่างแรกเลยคือ ถ้ายอดขายดี เราไม่เครียด การแก้ปัญหาแบบไม่เครียดนี่ปัญหาเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลยนะ”
ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้จัดการง่ายขึ้น
“ด้วยความที่แอมป์ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการร้านอาหารอยู่ตลอด ไปกินตามร้านต่างๆ เป็นประจำทำให้เราได้เห็นวิธีการจัดการร้านที่หลากหลาย อะไรที่ดีเราก็นำมาปรับใช้กับร้านเรา อย่างเครื่อง POS อยู่ในแผนแต่แรกเลยว่า ต้องเอามาใช้ในร้าน คือตอนนั้นไม่สนเลยว่าราคาจะยังงัย พร้อมลงทุนกับอุปกรณ์ตัวนี้ เพราะได้เห็นร้านที่มีมาตรฐานทุกๆ ร้านก็ใช้กัน ยิ่งร้านที่มีหลายสาขาไม่มีร้านไหนไม่ใช่ เราก็เลยหาข้อมูลว่า มันคืออะไร จำเป็นแค่ไหน ทำให้รู้ว่ามันคือสิ่งจำเป็นที่ต้องมี เพราะช่วยจัดการในเรื่องการเงินได้ ช่วยในเรื่องรับออเดอร์ได้ จัดการสต็อกได้ อย่างแคชเชียร์จะให้เรามานั่งรับเงินเองทั้งวันทุกวันเราคงไม่มีเวลาขนาดนั้น ก็ต้องใช้คนอื่นทำแทน ถ้าไม่มีระบบป้องกันที่ดี หรือจ้างคนที่ไว้ใจไม่ได้ ก็จะเป็นช่องทำให้มีการทุจริตได้ง่าย บิลออเดอร์ที่ออกถ้าไม่มีระบบตรวสสอบก็ทุจริตได้ หรือ ถ้าไม่มีระบบจัดการออเดอร์ ออกออเดอร์ลูกค้าผิด คิดเงินผิด ก็จะมีปัญหาตามมา พอเราหาข้อมูล POS มากขึ้นก็ยิ่งรู้ว่าจำเป็นต้องใช้ เวลาเราไม่อยู่ร้านเราสามารถตรวขสอบได้ว่า วันนี้ขายเมนูอะไรไปเท่าไหร่ ยอดขายมาเท่าไหร่ มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้าง เหมือนเรามีตัวเราอยู่ที่ร้านอีกคน”
“พอรู้แล้วว่า POS สำคัญ ก็ต้องดูต่อว่า จะใช้ของเจ้าไหน เพราะเมื่อติดตั้งแล้ว POS จะควบคุมทุกระบบภายในร้าน ดังนั้นบริการหลังติดตั้งจึงสำคัญ เกิดอะไรขึ้นต้องสามารถแก้ไขให้เราได้ทันที อีกจุดคือ ต้องใช้งานง่าย เพราะพนักงานที่ร้านส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่น อะไรที่เข้าใจยากไปก็จะเกิดปัญหาการใช้งานได้ อย่างที่ร้านตอนนี้ใช้ของแบรนด์ FR อยู่ เพราะคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ”
ทำธุรกิจถ้ามีโอกาสโต ต้องโต ไม่หยุดอยู่ที่เดิม
“ล่าสุดเราเปิดสาขาสองอยู่ที่ซอยเพชรเกษม69 เพราะที่ผ่านมามีคนสนใจสอบถามอยากซื้อเป็นแฟรนไชส์อยู่เรื่อยๆ เลยเห็นว่าแบรนด์นี้มันมีโอกาสโตได้อีก แต่ก่อนที่เราจะโตไปในรูปแบบแฟรนไชส์ เราก็ต้องทำให้แน่ใจก่อนว่า สิ่งที่เราเป็นอยู่ทั้งหมด หากไม่ใช่เป็นทำเลนี้ ไปอยู่ทำเลอื่นๆ จะได้รับการตอบรับหรือไม่ เราต้องลองเองก่อน เพราะถ้าถึงวันที่ขายแฟรนไชส์คนที่ซื้อไปทำก็ต้องสำเร็จด้วย ไม่ใช่ซื้อไปแล้วเขาเจ๊ง สาขาสองเลยเป็นสาขาที่เราทำด้วยความพร้อมกว่าสาขาแรก ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นต้องให้เวลาสักระยะ”
บทสรุปความสำเร็จของการทำธุรกิจจากประสบการณ์มือใหม่
“ถ้าเอาจากประสบการณ์ของแอมป์อันดับแรกคือยกให้ทำเล ที่จอดรถต้องมีเพียงพอ ทำเลสำคัญ แบรนด์โกดังนมสดอาจจะไม่เป็นที่รู้จักถ้าทำเลไม่ดี สองเรื่องบุคลากรก็เป็นเรื่องสำคัญต้องหาคนที่รักในการทำงานบริการ พร้อมเรียนรู้ โดยที่เราเองก็ต้องมีระบบจัดการที่ดีรองรับด้วย สามเรื่องคุณภาพสินค้าการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพลูกค้าจะแยกออกได้ทันที ลูกค้ามักยอมจ่ายแพงเพื่อให้ได้ทานของดีๆ ในราคาที่เหมาะสมด้วยนะ สี่เรื่องการบริการลูกค้า เพราะต่อให้อะไรดีหมดแต่ถ้าบริการไม่ดีทุกอย่างก็จบ สุดท้ายคือการตลาด อย่างของเราเองเรื่องการตลาดก็ยังทำได้ไม่ดีพอนะยังไม่ถือว่าสำเร็จมากเท่าไหร่ ผลตอบรับที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากปากต่อปาก”
“ยังต้องพัฒนาเรื่อยๆ ค่ะ ทุกธุรกิจมันต้องมีการปรับตลอด ปรับเพื่อให้มันดีขึ้นตลอด ธุรกิจไม่มีคำว่าหยุด ถ้าหยุดเมื่อไหร่คนอื่นก็แซงเราได้ การทำให้ลูกค้าพึงพอใจในแบรนด์ของเรานั่นคือเป้าหมายที่เรามุ่งมั่นในมุมมองเราไม่ได้มองว่าทำร้านเพื่อให้ได้กำไรเยอะๆ วัตถุดิบทุกอย่างเราใช้เน้นแต่ของมีคุณภาพให้ลูกค้า กำไรน้อยหน่อยแต่ให้ลูกค้ากินของดีๆ ขอแค่ให้มันมีกำไรหล่อเลี้ยงร้านได้ แล้วมีลูกค้าต่อเนื่องดีกว่า”
บทวิเคราะห์อย่างย่อต่อความสำเร็จร้านโกดังนมสด
1 ทำการบ้านหาข้อมูลให้ครบก่อนเปิด
2 ให้ความสำคัญกับทำเล
3 คอนเซปต์ต้องชัดเจน
4 ออกหาความรู้นำมาพัฒนาร้านอยู่ตลอด
5 ทำยอดขายให้ได้ตามเป้า ลดความกดดันให้รับมือปัญหาต่างๆ ได้ดี
6 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการ
ข้อมูลร้านโกดังนมสด
สาขาแรกที่ตั้ง : ปั้มปตท. ถนนบางขุนเทียน
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 15.00-23.00 วันเสาร์-อาทิตย์ เปิด 12.00-23.00
ติดต่อ : 097 112 1700
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/kodung.nomsod/
สาขาสอง ที่ตั้ง : ซอยเพชรเกษม69
เวลาเปิด-ปิด : 15.00-23.00 น.
ติดต่อ : 063 768 6162
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/โกดังนมสด-สาขา2
